วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เห็ดหลินจือแดง Ganoderma Lucidum

เห็ดหลินจือ Ganoderma Lucidum
เห็ดมีองค์ประกอบของพฤกษเคมีที่ชื่อว่า “โพลีแซคคาไรด์” (Polysaccharide) จะทำงานร่วมกับแมคโครฟากจ์ (macrophage) ซึ่งเป็นเซลล์คุ้มกันขนาดใหญ่ โดยจะช่วยกระตุ้นวงจรการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เสริมและช่วยเพิ่มปริมาณและประสิทธิภาพของเซลล์คุ้มกันธรรมชาติ ให้ทำหน้าที่ทำลายเซลล์แปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย รวมถึงพวกไวรัสและแบคทีเรียอื่นๆ ด้วย

เห็ดให้คุณค่าทางโภชนาการและมีสรรพคุณทางยา เช่นช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย ลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง เบาหวาน อัลไซเมอร์ หลอดเลือดหัวใจอุดตัน และความดันโลหิตสูง


เออร์โกสเตอรอลหรือโปรวิตามินดี 2 เป็นสารสำคัญที่พบได้ในเห็ดหลินจือ ซึ่งร่างกายจะสะสมไว้ใต้ผิวหนังเพื่อเปลี่ยนไปเป็นวิตามินดีเมื่อได้รับรังสีอุลตราไวโอเลตจากแสงแดด ที่จะไปช่วยดูดซึมแคลเซียมฟอสฟอรัสในลำใส้ซึ่งจำเป็นต่อการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน  เพิ่มความแข็งแรงของเอ็นข้อกระดูก

เห็ดหลินจือ มีส่วนประกอบของกรดอะมิโน เอสิด ถึง 18 ชนิด และอีก 8 ชนิด ซึ่งจำเป็นมากต่อร่างกาย และจำนวนน้ำย่อยที่มีน้ำตาลจำนวนมากช่วยต่อสู้เนื้องอก เห็ดหลินจือยังมีส่วนช่วยในการหายของแผลโดยไม่มีผลข้างเคียงโดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน และสามารถช่วยให้สายตาคมชัด ป้องกันตับ และ ไต ช่วยระบบความจำดีขึ้น เห็ดหลินจือยังมีส่วนสำคัญของแร่ธาติ ไวตามิน เอ็นไซม์ กรดอะมิโน เอซิด น้ำย่อย การวิเคราะห์ทางชีวภาพ

ส่วนประกอบของสารละลายที่สำคัญที่สุดเป็นที่รู้กันคือ Germanium organic germanium (เป็นโรคชนิดหนึ่งที่ทำให้อวัยวะเปลี่ยนแปลง) ในร่างกายมนุษย์ ช่วยเพิ่มออกซิเจนในการหล่อเลี้ยงการจัดวางเซลล์ของเมล็ดเลือดแดง เพื่อให้หมุนเวียนผ่านเข้าไปใช้ในระบบของร่างกาย ช่วยเพิ่มขบวนการเผาผลาญอาหารของร่างกายมนุษย์ด้วย

วัยเด็กและวัยหนุ่มสาว เห็ดหลินจือช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต และพัฒนาการ บำรุงกำลังและเสริมความแข็งแรง เสริมภูมิต้านทานโรค บำรุงสมองและสติปัญญา

พอก้าวสู่วัยทำงานและกลางคน เจ้าเห็ดหลินจือ เหมาะสำหรับใช้เพื่อความงามของผิวพรรณ ลดรอยด่างดำ คงความอ่อนวัย และบำรุงอวัยวะภายใน ทั้ง ปอด ตับไต รวมทั้งเพิ่มสมรรถภาพของระบบต่างๆ

เห็ดหลินจือกลับเป็นที่นิยมในหมู่ผู้สูงอายุมากที่สุด เพราะมันช่วยชะลอความแก่ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันความจำเสื่อม ลดความเสี่ยงอัลไซเมอร์ เพิ่มออกซิเจนในเลือดกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดการอุตตันของหลอดเลือดเลือดไหลเวียนดีขึ้น บำรุงหัวใจ ต่อต้านสารพิษ

โสมอเมริกา จินเซนโนไซด์ Ginsenosides (American Ginseng)

โสมอเมริกา Ginsenosides (American Ginseng)
สารสำคัญ ที่พบในรากเป็นสาร saponin ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม ginsenoside กลุ่ม panaxoside และกลุ่ม chikusetsusaponin แต่ส่วนประกอบที่สำคัญ ของโสมคือ ginsenoside ซึ่งจะมีในโสมประมาณ ร้อยละ 1-2 โดยน้ำหนัก ขึ้นกับชนิดของโสม แหล่งที่ปลูก รวมทั้งกระบวนการผลิต พบว่าโสมที่ขายในท้องตลาดบางชนิดแทบจะไม่มี ginsenoside เลย ดังนั้นเมื่อหาซื้อโสมมาบำรุงร่างกายจึงควรดูส่วนประกอบของโสม คือ ginsenoside เป็นสาคัญ

คุณประโยชน์ของโสมอเมริกา American Ginseng
ต้านความเครียด: สารสกัดจากโสมมีคุณสมบัติต้านความเครียด โดยช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้สามารถทนต่อความเครียดได้ในระดับหนึ่ง โดยฮอร์โมน ACTH จากต่อมใต้สมองจะเป็นตัวควบคุมการหลั่งฮอร์โมนต่อมหมวกไต ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันและต่อต้านความเครียด โดยเร่งกระบวนการเมตาบอลิซึมต่างๆ เพื่อปลดปล่อยพลังงานและสารต่อต้านความเครียดออกมา

ผลต่อระบบประสาทกลาง ในสารสกัดโสมมีคุณสมบัติกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางให้ตื่นตัว ช่วยให้ผ่อนคลายความตึงเครียด มีส่วนช่วยบำรุงสมองโดยรวม

ผลต่อต้านความเมื่อยล้า เพราะทำให้ร่างกายมีการปลดปล่อยพลังงานมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เยื่อเซลล์สามารถดูดซึมอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นถึง 21% เซลล์ในร่างกายจึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังมีผลทำให้กระบวนการเผาผลาญภายในร่างกายเพิ่มมากขึ้นด้วย

สารสกัดจากโสมมีส่วนช่วยลดปริมาณน้ำตาลในผู้ป่วยที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง จากงานค้นคว้าวิจัยพบผลชี้วัดว่า สารสกัดจากโสมทำให้ตับอ่อนหลั่งสารอินซูลินออกมาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ซึ่งจะไปช่วยป้องกันการเกิดของอาการชาตามนิ้วมือและปลายเท้า การเกิดแผลเน่าเปื่อย นอกจากนี้ ยังมีฤทธิ์คล้ายอินซูลิน จึงอาจเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

เพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย: จากงานวิจัยพบว่าสารสกัดจากโสมสามารถช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันสูงขึ้น โดยทำการวัดผลจากปริมาณเม็ดเลือดขาวในเลือด
ช่วยชะลอความแก่: ร่างกายของเรานั้นจะมีกระบวนการเผาผลาญไขมัน (Lipid Oxidation) ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอนุมูลอิสระที่จะไปทำลายเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายให้เสื่อมสลายลง ส่งผลให้ร่างกายชราลง โสมและสารสกัดจากโสมนั้นมีฤทธิ์ในการทำลายอนุมูลอิสระ ทำให้เนื้อเยื่อเหล่านี้มีการเสื่อมสภาพในอัตราที่ลดต่ำลง